ปัญหาและข้อขัดข้องของระบบสตาร์ท
ปัญหาและข้ขัดข้องของระบบสตาร์ท แบ่งออกเป็น 2 สาเหตุใหญ่ๆด้วยกันคือ
1. เครื่องยนต์หมุนแต่เครื่องยนต์ไม่ติด ถ้าเครื่องยนต์ไม่ติด สาเหตุของปัญหาอาจเกิดจากระบบจุดระเบิด ระบบเชื้อเพลิง และกำลังอัดของเคร่องยนต์
2. ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ต่ำในขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ สาเหตุของปัญหาอาจเิกิดจากอุณหภูมิในขณะนั้นต่ำ น้ำมันหล่อลื่นมีความหนืดสูง หรือแบตเตอรี่มีประจุไฟต่ำไม่เพียงพอกับการสตาร์ทเครื่องยนต์
ปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดกับระบบสตาร์ทมี 6 ปัญหาด้วยกันคือ
เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START มอเตอร์สตาร์ทไม่หมุน ซึ่งมีวิธีการตรวจสอบดังนี้
- ใช้โวลด์มิเตอร์วัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่แบตเตอรี่ และบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START แรงเคลื่อนที่แบตเตอรี่ประมาณ 9.6 โวลด์หรือสูงกว่า ถ้าแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่วัดต่ำกว่า ให้ประจุไฟหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
- ใช้โวลด์มิเตอร์วัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าระหว่างขั้ว 50 ของมอเตอร์สตาร์ทกับกราวด์ บิดสวิตช์จุดระเบิดไปยังตำแหน่ง START จะต้องใช้แรงเคลื่อนไฟฟ้าประมาณ 8 โวลด์หรือสูงกว่า ถ้าแรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำกว่า ให้ตรวจวงจรไฟระหว่างแบตเตอรี่กับขั้ว 50
- ก่อนถอดชิ้นส่วนของมอเตอร์สตาร์ท ให้ตรวจการขาดของขดลวดดึงในสวิตช์แม่เหล็กหรือสายไฟจากขั้ว C
เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START เฟืองขับวิ่งออกขบล้อช่วยแรง แต่มอเตอร์สตาร์ทไม่หมุน มีวิธีการตรวจสอบดังนี้
- หมุนเครื่องยนต์ด้วยมือโดยใช้ประแจเพื่อตรวจหาความฝืดของเครื่องยนต์
- ใช้โวลด์มิเตอร์วัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่แบตเตอรี่เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START แรงเคลื่อนไฟฟ้าประมาณ 9.6 โวลด์หรือสูงกว่า ถ้าแรงเคลื่อนต่ำกว่า ให้ประจุไฟหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
- ใช้โวลด์มิเตอร์วัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าระหว่างขั้ว 30 ของมอเตอร์สตาร์ทกับกราวด์ จากนั้นให้บิดสวิตช์จุดระเบิด ไปในตำแหน่ง START แรงเคลื่อนไฟฟ้าที่วัดประมาณ 8 โวลดืหรือสูงกว่า ถ้าแรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำกว่าให้ตรวจสายไฟจากแบตเตอรี่ไปยังขั้ว 30 ของมอเตอร์สตาร์ท
- ก่อนแยกชิ้นส่วนของมอเตอร์สตาร์ท ให้พิจารณาสาเหตุที่อาจเิกิดขึ้นได้ เพื่อให้ง่ายขึ้นในการตรวจสอบ เช่น หน้าสัมผัสหรือสะพานไฟในสวิตช์แม่เหล็กไม่ดี สกปรก คอมมิวเทเตอร์สกปรก หรือชุดโอเวอร์รันนิ่งคลัตช์ลื่น
เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START เฟืองขับจะวิ่งเข้า - ออก ตลอดเวลา มีวิธีการตรวจสอบดังนี้
- ใช้โวลด์มิเตอร์วัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่แบตเตอรี่เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START แรงเคลื่อนไฟฟ้าที่วัดได้ประมาณ 9.6 โวลด์หรือสูงกว่า ถ้าวัดได้ต่ำกว่า ให้ประจุไฟหรือเปลี่ยนแบตใหม่
- ใช้โวลด์มิเตอร์วัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่ขั้ว 50 ของมอเตอร์สตาร์ทกับกราวด์เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START แรงเคลื่อนไฟฟ้าที่วัดได้ประมาณ 8 โวลด์หรือสูงกว่า ถ้าวัดได้ต่ำกว่า ให้ตรวจสอบสายไฟระหว่าง แบตเตอรี่กับขั้ว 50
- ก่อนถอดแยกชิ้นส่วนของมอเตอร์สตาร์ท ให้ตรวจการขาดและการลงกราวด์ของขดลวดยึดเพื่อให้ง่ายต่อการแก้ปัญหา
มอเตอร์จะทำงานตลอดเวลาแม้สวิตช์จุดระเบิดจะกลับมาอยู่ในตำแหน่ง ON แล้วก็ตาม ซึ่งก็มีวิธีการตรวจสอบดังนี้
- ตรวจสอบการต่อวงจรไปยังมอเตอร์สตาร์ทของสวิตช์จุดระเบิดด้วยโวลด์มิเตอร์เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START จะต้องมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเท่ากับแรงเคลื่อนแบตเตอรี่ และเมื่อปล่อยสวิตช์จุดระเบิดกลับมาในตำแหน่ง ON แรงเคลื่อนไฟฟ้าที่ต่อไปยังมอเตอร์สตาร์ทจะต้องถูกตัดทันที
- ตรวจการทำงานของรีเลย์สตาร์ท ถ้าีมี
- ก่อนแยกชิ้นส่วนของมอเตอร์สตาร์ท ให้ตรวจการทำงานของสปริงดึงกลับหรือการติดขัดของพลันเยอร์สวิตช์แม่เหล็ก
เมื่อสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START เฟืองขับวิ่งออกขบกับล้อช่วยแรงแต่เครื่องยนต์ไม่หมุนและเกิดเสียงดัง ซึ่งก็มีสาเหตุมาจากเฟืองขับของมอเตอร์สตาร์ทชำรุด หรือเฟืองที่ล้อช่วยแรงสึกหรอ
เมื่อบิดสวิตช์จุดระเบิดไปในตำแหน่ง START อีกครั้งหลังจากเครื่องยนต์ไม่หมุนและเกิดเสียงดังที่เฟืองขับ ซึ่งสาเหตุมาจากอาร์เมเจอร์เบรค ให้ทดสอบมอเตอร์สตาร์ทในสภาวะไม่มีโหลด เพื่อตรวจการหยุดหมุนทันทีหลังจากกระแสไฟฟ้าถูกตัดไปยังมอเตอร์สตาร์ท