วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องทั่วไปจะผลิตจากน้ำมันพื้นฐาน หรือที่เรียกกันว่า Base Oil ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ ที่ได้จากการกลั่น น้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะมีคุณสมบัติของน้ำมันเครื่อง 4 ประการ คือ หล่อลื่น และป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ เสียดสีกันจนเกิดการสึกหรอ ป้องกันการรั่วซึมระหว่างลูกสูบกับกระบอกสูบระบายความร้อนภายในตัวเครื่องยนต์และป้อ
งกันสนิม ผู้ผลิตน้ำมันเครื่องแต่ละรายยังให้ความสำคัญกับการใส่สารเติมแต่งคุณภาพ (Additives) ลงไปอีก เพื่อเพิ่มคุณสมบัติ ในการใช้งานด้านอื่น ๆ เช่น ความสามารถในการรักษาความหนืดหรือความข้นใสไว้ได้แม้อุณหภูมิจะเปลี่ยน สามารถละลาย คาร์บอนที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่ให้จับตัวกันเป็นก้อนไม่รวมตัวกับออกซิเจน มีความตึงผิวที่เหมาะสม สามารถที่จะรับแรงกด ได้โดยไม่กระจายตัวออกจากกัน ป้องกันการเกิดฟอง ป้องกันการเกิดกรดเมื่อกำมะถันที่ได้จากการเผาไหม้รวมตัวกับน้ำ ฯลฯ ซึ่งสารที่ผู้ผลิตน้ำมันแต่ละรายเลือกที่จะผสมผสานลงไป เพื่อให้คุณสมบัติที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของผู้บริโภค จึงทำให้คุณสมบัติของน้ำมันแต่ละยี่ห้อจึงแตกต่างกัน หากจะเลือกน้ำมันเครื่อง จึงควรเลือกคุณสมบัติที่ตรงกับ ความต้องการ ของคุณ

การเลือกซื้อน้ำมันเครื่องนั้น หลายท่านเลือกน้ำมันเครื่องที่มียี่ห้อเดียวกับที่มีในปั๊มน้ำมัน เพราะคิดว่าจะได้น้ำมันเครื่อง ที่มีคุณภาพดีตามความโด่งดังของยี่ห้อ ทั้งที่ในยี่ห้อเดียวก็มีให้เลือกหลายระดับคุณภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีน้ำมันเครื่องคุณภาพดีอีกนับสิบยี่ห้อที่ไม่มีในปั๊มน้ำมันในประเทศไทยและจำหน่ายใ
ยราคาไม่แพง ฉะนั้นการจะเลือกซื้อน้ำมัน เครื่องควรดูที่เกรดคุณภาพตามมาตรฐานของ API ที่ระบุไว้ข้างกระป๋องเครื่องยนต์เบนซิน เกรดคุณภาพสูงสุด API SL รองลงมาคือ SJ SH SG ตามลำดับ ส่วนน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลเกรดคุณภาพสูงสุด API CI-4 รองลงมาคือ CH-4 CG CF ตามลำดับ และควรเลือกเกรดคุณภาพอย่างน้อยรองจากสูงสุด เพื่อการปกป้องเครื่องยนต์ของรถคุณอย่างสูงสุด

ตามปรกติผู้ใช้รถยนต์ต้องหมั่นตรวจระดับน้ำมันเครื่องด้วยก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง
อย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรปล่อยให้ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับที่ต่ำจนเกินไป ซึ่งในการตรวจระดับน้ำมันเครื่อง คุณสามารถทำได้ตามขั้นตอน คือ จอดรถอยู่ในแนวระดับราบ อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงาน แล้วดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 4-5 นาที เพื่อให้น้ำมัน เครื่องไหลกลับมาลงอ่าง แล้วถึงทำการวัด การตรวจระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัดน้ำมันเครื่อง ควรอยู่ระหว่างขีด ?F? และ ?L? ถ้าน้ำมันเครื่องยังไม่ได้ระดับ ให้เติมน้ำมันเครื่องทีละน้อยจนถึงระดับที่เหมาะสม (น้ำมันควรอยู่ระหว่างขีด ?F? และ ?L? )

ข้อควรระวัง อย่าเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป เพราะหากน้ำมันเครื่องมากเกินไป ข้อเหวี่ยงอาจตีไปโดน และกระเด็นเข้าสู่ ห้องเผาไหม้ จนทำให้เกิดควันขาว และทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ ในระหว่างการตรวจเช็ค ควรระมัดระวัง เพราะอาจสัมผัส ถูกท่อรวมไอเสียขณะที่มีอุณหภูมิสูง

การวัดระดับน้ำมันเครื่องที่ถูกต้องและแม่นยำนั้น ควรวัดหลังจากดับเครื่องยนต์แล้วไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ถ้าอยากได้ความแม่นยำสูงสุด ควรวัดน้ำมันเครื่องขณะที่เครื่องยนต์เย็นสูงสุดเช่นกัน เช่น หลังจากจอดไว้ทั้งคืน เพราะน้ำมันเครื่องจะข้น ทำให้เราสามารถชักเหล็กวัดขึ้นมาตรวจสอบระดับได้เลยในครั้งแรก ระดับน้ำมันเครื่องนั้น ไม่ควรให้ระดับน้ำมันเครื่องลดต่ำกว่ากึ่งกลางขีดบน (MAX) และขีดล่าง (MIN) ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม

การแยกแยะน้ำมันเครื่องว่าเป็นของแท้หรือของปลอมนั้นก็มีวิธีการพิจารณาง่าย ๆ จากฉลากกับหีบห่อ ซึ่งควรจะมีสภาพใหม่ และระบุชื่อ หรือเครื่องหมายทางการค้าของผู้ผลิต วันเดือนปี หรือรหัสประจำรุ่นที่ผลิต ประเภทของน้ำมันเครื่อง ปริมาตรสุทธิ ไว้อย่างชัดเจน หากพบน้ำมันเครื่องที่มีหีบห่อสภาพโทรมหรือเก่า ควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อนเป็นดีที่สุด เพราะบางครั้งมีการ นำน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วมาสกัดใหม่ กรอกลงในขวดแท้ที่คนอื่นทิ้งแล้วนำมาขายในราคาที่ถูกกว่าปรกติ โดยน้ำมันเครื่อง ประเภทนี้จะมีกลิ่นเหม็นไหม้ สีคล้ำ ถ้าเทใส่แก้วแล้วทิ้งไว้ 3-4 วัน จะเห็นตะกอนตกค้างอยู่ก้นแก้ว หรือนำมาขยี้แรง ๆ กับนิ้วซักครึ่งนาทีจะเกิดความร้อนพร้อมส่งกลิ่นไหม้ อย่าลืมดูแลเอาใจใส่น้ำมันเครื่องเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ และเพื่อความปลอดภัยในทุกการขับขี่ของคุณ

WWW.PCNFORKLIFT.COM