วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

การใช้รถยกไฟฟ้า ( Fork lift)










  • ผู้ขับขี่รถยกไฟฟ้าจะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมมีใบอนุญาตขับขี่โดยเฉพาะเท่านั้น



  • -ต้องแน่ใจว่ารถยกไฟฟ้าได้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่เหมาะสม

    -ก่อนและหลังการยกงาขึ้น/ลง ต้องให้สัญญาณและเตือนผู้อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

    -ห้ามยืน เดิน หรือทำงานใต้งารถยกไฟฟ้าที่กำลังทำงาน

    -บรรทุกวัสดุตามพิกัดที่กำหนด

    -หากมีเหตุขัดข้องระหว่างการทำงาน ห้ามเข้าใต้งา หรือพยายามที่จะทำการซ่อมแซมหรือกระทำการใด ๆ ทั้งสิ้น

    -ก่อนเคลื่อนรถยกไฟฟ้าออกไป ต้องสำรวจว่าบริเวณใกล้เคียงมีสิ่งกีดขวางหรือไม่

    -ตรวจสอบรถยกไฟฟ้าทุกวัน หากมีจุดผิดปกติให้รายงานผู้รับผิดชอบ ห้ามใช้รถยกไฟฟ้าที่มีลักษณะไม่ปลอดภัย

    -รีบรายงานอุบัติเหตุ หรือเหตุผิดปกติให้ผู้รับผิดชอบทราบทันทีเพื่อสามารถตรวจสอบสาเหตุได้ทันที

    -ตรวจสอบความเรียบร้อยของแบตเตอรี่ ถังน้ำมันและฝาปิด ก่อนสตาร์ทเครื่อง หรือเริ่มทำงาน

    -ควบคุมความเร็วรถให้สามารถที่จะหยุดได้กะทันหัน

    -บีบแตรให้สัญญาณขณะขับรถในมุมอับ

    -สอดงาใต้วัสดุที่บรรทุกให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะขับเครื่องจะต้องให้วัสดุพิงพนักพิงวัสดุ และกางงาออกให้พอดีกับน้ำหนัก (บรรทุก) วัสดุ

    -ห้ามใช้ชั้นวางที่ชำรุดในการยก

    -การเคลื่อนรถออกทุกครั้งต้องยกงาสูงกว่าพื้นประมาณ 6 - 8 นิ้ว เสมอ

    -ขณะรถวิ่ง ให้ยกวัสดุในระดับต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้

    -ขับรถให้ความเร็วรถพอเหมาะกับสภาพพื้นผิวถนน น้ำหนักบรรทุก และสภาพของบริเวณทีทำงาน

    -หากวัสดุที่บรรทุกสูงจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า ให้ขับรถถอยหลังไปแทน

    -ห้ามขนย้ายวัสดุที่จัดตั้งไม่เป็นระเบียบ

    -ตรวจสอบสิ่งกีดขวางเหนือศรีษะทุกครั้งที่จะขนย้ายวัสดุ

    -ห้ามออกรถเร็ว หยุดกระทันหัน หรือเลี้ยวฉับพลัน โดยเฉพาะในขณะที่กำลังบรรทุกวัสดุ
    -เว้นระยะห่างจากยานพาหนะคันอื่นประมาณ 3 ช่วงคันรถ(นับจากปลายงายกเข้ามา)

    -ห้ามแซงซึ่งกันและกันในบริเวณที่อันตราย เช่น มุมอับ ทางแยก ฯ

    -ต้องคำนึงถึงความสูง ความกว้างของรถเสมอ และระวังคนเนเท้าโผล่ออกมาจากมุมอับ

    -บีบแตรให้สัญญาณและขับรถช้า ๆ เมื่อเข้าใกล้ทางเดินประตู ทางเข้า และรถยกคันอื่น

    -ระมัดระวังเมื่อเข้าใกล้ทางเดินเท้า หลีกเลี่ยงการขับรถยกไฟฟ้าเข้าใกล้คนยืนอยู่ริมรั้วหรือริมถนน

    -ลดความเร็วลงเมื่อเข้าใกล้บริเวณมุมอับที่จะมองไม่ถนัด เช่น มุมประตู หรือขับรถชิดซ้ายไว้จนกว่าจะแน่ใจ

    -ห้ามขับแซงรถยกคันอื่นที่ไปทางเดียวกันในบริเวณทางแยก จุดอับ หรือบริเวณที่อันตราย

    -ห้ามขับรถทับสิ่งของที่ตกอยู่บนพื้น

    -รู้ตำแหน่งของล้อรถยกไฟฟ้ากับปลายงายกหรือสุดขอบของวัสดุที่จะยกให้ระมัดระวังในขณะกระดกปลายงาก่อนยก

    -ห้ามจับพวงมาลัย หรือขับขี่ขณะมือหรือถุงมือเปื้อนน้ำมันหรือลื่น

    -ตีเส้นสีเหลืองแสดงช่องเดินรถและบริเวณที่ทำงาน

    -ติดตั้งกระจก และหรือ ป้ายสัญญาณหยุด ในบริเวณประตู ทางเดิน หรือสถานที่ทำงานที่เป็นจุดอันตราย บีบแตรให้สัญญาณทุกครั้งที่เข้าใกล้บริเวณดังกล่าว

    -ปลดเกียร์ว่าง ใส่เบรค ลดงาให้อยู่ในระดับต่ำสุดและดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่จอดหลังใช้งาน

    -ห้ามผู้โดยสารบนรถ

    -ดูกระจกเงาสะท้อนมุมถนน เมื่อถึงบริเวณถนนหักมุมและพร้อมที่จะหยุดหากมีเรื่องกระทันหัน และบีบแตรให้สัญญาณทุกครั้ง

    -ดับเครื่องก่อนเติมน้ำมันในบริเวณที่กำหนดทุกครั้ง
    -ตรวจการปิดฝาถังน้ำมันให้เรียบร้อยหลังเติมน้ำมัน และทำความสะอาดเมื่อน้ำมันหกก่อนการติดเครื่อง
    -ภาชนะบรรจุน้ำมัมันต้องติดฉลากให้ชัดเจน
    อุปกรณ์ดับเพลิงต้องติดไว้ที่บริเวณที่เติมน้ำมันและเตรียมพร้อมเสมอที่จะนำมาใช้งาน


    รถเข็น  การแบ่งชนิดรถเข็นพื้นเหล็ก 2 ชั้น
    รถเข็นพื้นเหล็ก 2 ชั้นในโรงงานอุตสาหกรรมสามารถแบ่งตามจำนวนล้อได้สองกลุ่ม คือแบบสองล้อ และแบบหลายล้อ รถเข็นแบบหลายล้อจะเหมาะกับการขนย้ายวัสดุในแนวราบส่วนรถเข็นแบบสองล้อมีความคล่องตัวมากกว่า หรือ หากแบ่งตามลักษณะการใช้งาน จะมีหลายชนิดมาก ขึ้นอยู่กับการใช้งานในประเภทต่าง ๆ เช่น ในสายการผลิต คลังสินค้า ร้านขายสินค้า และงานอุตสาหกรรมทั่วไป หรือแบ่งตามลักษณะของวัสดุที่จะขนย้ายแบบไม่มีภาชนะในตัว กับแบบมีภาชนะในตัว เช่น รถเข็นแป้ง ผงปูนซิเมนต์ การเลือกรถเข็นเพื่อใช้งาน จำเป็นต้องทราบ เงื่อนไข และตัวแปรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกดังต่อนี้
    1.น้ำหนักวัสดุขนย้าย ต้องคำนึงถึงขีดความสามารถในการรับแรงของพื้น ความเสียหายในการขนส่ง และไม่หนักจนเกินความสามารถของผู้เข็น
    2.เงื่อนไขของพื้น ราคาของรถเข็นจะถูกกว่าราคาของพื้น ดังนั้นการเลือกรถเข็นจะถูกกว่าราคาพื้น ดังนั้นการเลือกรถเข็นควรจะ มีการดูเงื่อนไขข้อกำหนดของพื้น เช่น ไม่ควร ใช้รถเข็นล้อเหล็กกับพื้นที่ทำด้วยกระเบื้อง
    3.ล้อรถ ชนิดวัสดุ และขนาดของล้อรถเข็นควรจะเลือกใช้ให้เหมาะกับเงื่อนไขของพื้นน้ำหนักของวัสดุที่ขนย้าย โดยทั่วไปนิยมใช้ล้อแบบมีลูกปืนทรงกระบอกจะดีที่สุด
    4.ช่องทางวิ่ง จะช่วยตัดสินใจเลือกขนาดของรถเข็นเพราะช่องทางวิ่งแคบ เปียกชื้น และมีจำนวนโค้งมากๆ ก็จะต้องนำมาพิจารณาเลือก
    5.เงื่อนไขรวม หลังจากการวิเคราะห์จะมีการรวมปัญหาต่างๆ เข้าด้วยกันสำหรับตั้งเงื่อนไข หรือช่วยในการตัดสินใจเลือกแบบของรถเข็นได้ถูกต้องตามความต้องการเพื่อให้การตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้องเหมาะสมจำเป็นต้องทราบข้อมูลทางเทคนิค การตั้งเงื่อนไข ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป
    ก่อนที่จะใช้รถเข็นพื้นเหล็ก 2 ชั้น ควรจะตรวจสอบความกว้างเส้นทางการวิ่งผ่านของรถเข็นพื้นเหล็ก 2 ชั้น และอัตราความลาดชันของพื้นเสียก่อน

    WWW.PCNFORKLIFT.COM